มาดูเทือกเขาเอเวอเรสต์ดินแดงของความสูง ข่าวน่ารู้ อัพเดทสถานการณ์ เรื่องเล่า สาระความรู้ คู่ความบันเทิง
Category

มาดูเทือกเขาเอเวอเรสต์ดินแดงของความสูง

เทือกเขาเอเวอเรสต์นั้นได้ชื่อว่าเป็นเทือกเขาที่มีความสูงที่สุดของโลก ได้เป็นเทือกเขาที่มีผู้คนนั้นเคยขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งยอดเขาเอเวอเรสต์นั้นจะเป็นยอดเขาหนึ่งที่อยู่ในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเกิดจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียและแผ่นเปลือกโลกอินเดีย จึงทำให้เกิดเทือกเขาเอเวอเรสต์ขึ้นมา แล้วยอดเขาเอเวอเรสต์นั้นถือแบ่งเป็นพรมแดนระหว่างประเทศเนปาลและประเทศทิเบตโดยชาวเนปาลเรียกยอดเขาเอเวอเรสต์ว่า สครมาตา หมายถึงบ้านดาวแห่งท้องสมุทรส่วนชาวทิเบตขนานนาม ยอดเขาแห่งนี้ว่า โชโมลังมา มารดาแห่งสวรรค์ ซึ่งก็จะมีชื่อประจำตัวของตัวเองเลย ถ้าเขาว่า red นั้นตั้งชื่อโดย เซอร์เเอนดรูว์ วอ นักสำรวจประเทศอินเดียชาวอังกฤษเพื่อเป็นเกียรติแก่ sir george นักฟุตบอลประเทศอินเดียรุ่นก่อนหน้า คำว่า everest มีคนส่วนมากมักอ่านออกเสียงเป็น everest ในขณะที่ sir george อ่านออกเสียงชื่อสกุลของตัวเองว่า อีฟเรส นั่นเองและวันนี้เราจะพามาดูลักษณะทางภูมิศาสตร์ของ ถ้าเขาเอเวอเรสต์กันว่ามีอะไรให้น่าสนใจกันบ้างไปดูกันเลย!

1. ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของเทือกเขาเอเวอเรสต์

เทือกเขาเอเวอเรสต์นั้นจะมีความสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 8000 เมตร หรือเป็นยอดเขาที่มีความสูงที่สุดในโลกนั่นเอง

ตั้งอยู่ที่พรมแดนระหว่างประเทศเนปาลและทิเบต ตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัยนั่นเอง ซึ่งมีผู้คนเคยไปไม่ถึงยอดเขาเอเวอเรสต์แล้วครั้งแรกได้แก่ เซอร์เอดมันด์ ฮิลลารี ในวันที่ 29 พฤษภาคม พ. ศ. 19 35

มีเส้นทางการปีนเขาที่ง่ายที่สุดได้แก่ จากเซาโคล ประเทศเนปาล

2. เรามาดูที่สุดของความสูง

เมื่อปีคศ 1952 รัฐนาถ สิกทาร์ นักคณิตศาสตร์และน้ำสำรวจจากเบงกอล เขาเป็นคนแรกที่ประกาศว่าภูเขาเอเวอร์เรสเป็นยอดเขาที่มีความสูงที่สุดในโลกจากคำนวณทาง ตรีโกณมิติ พวกเขาอาศัยข้อมูลที่วัดด้วยกล้องส่องแนวในที่ที่ไกลจากยอดเขาไป 150 ไมล์ในประเทศอินเดีย นั่นเอง เป็นต้น.

และสำหรับที่สุดของโลกอย่างภูเขาเอเวอร์เรสนั้น ถือว่าสามารถไปศึกษาและเรียนรู้ได้ตาม google site หรือ google ต่างๆ ที่มีข้อมูลเชิงลึกมากกว่านี้และนี่เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ ที่เราได้นำมาเสนอในวันนี้ คืออยากให้คนได้รู้จักยอดเขาเอเวอเรสต์อยู่เทือกเขาเอเวอเรสต์กันมากยิ่งขึ้นและมีความสนใจในด้านนี้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์ ทางด้านภูมิศาสตร์อีกด้วย เป็นต้น.

เครดิตของรูปภาพทั้งหมด

รูปที่ 1 จาก voathai.com

รูปที่ 2 จาก bbc

รูปที่ 3 จาก thermometum.com

#เทือกเขาเอเวอเรสต์ #เทือกเขาหิมาลัย #เที่ยวเอเวอเรสต์