การสอบเอ็นทรานซ์สมัยก่อน ข่าวน่ารู้ อัพเดทสถานการณ์ เรื่องเล่า สาระความรู้ คู่ความบันเทิง
Category

การสอบเอ็นทรานซ์สมัยก่อน

การได้มีโอกาสเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยที่ดีมีชื่อเสียงเป็นบันไดขั้นแรกของอนาคตที่ดีมีโอกาสได้งานดีๆ แต่สิ่งแรกที่จะต้องทำให้สำเร็จก่อนก็คือต้องสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ การเรียนให้จบมัธยมศึกษาตอนปลายนั้นเป็นการเอาชนะตัวเอง แต่การสอบเอ็นทรานซ์นั้นคือการสอบแข่งขันกับคู่แข่งทั้งประเทศซึ่งเป็นสิ่งที่ยากลำบากกว่ามาก

การเตรียมตัวเพื่อสอบเอ็นทรานซ์สมัยก่อนนั้น จะต้องเริ่มวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว เราต้องเลือกสายการศึกษาให้ตรงสายและมีวิชาเรียนที่ตรงกับวิชาที่ต้องใช้สอบเข้าคณะที่เราต้องการเข้าเรียนด้วย เช่น ในอนาคตเราต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะวิศวกรรมศาสตร์เราต้องเลือกเรียนในสายวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ แต่หากเราต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะแพทย์ศาสตร์เราต้องเรียนสายวิทยาศาสตร์ชีวเคมี

 การสมัครสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยในสมัยนั้นผู้สมัครสอบสามารถเลือกมหาวิทยาลัยและคณะที่ต้องการเข้าเรียนได้ 6 อันดับ แต่การเลือกอันดับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นไม่ใช่ว่านึกจะเลือกมหาวิทยาลัยใดและคณะใดตามความพอใจ เพราะเราจะต้องวางแผนในการเลือกให้เหมาะสมและไม่ให้การเลือกของเราเป็นการเลือกโดยเปล่าประโยชน์หรือเสียของ เราควรจะพิจารณาประวัติของคะแนนสอบในอดีตของคณะนั้นประกอบด้วย แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวชี้วัดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็พอจะใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ในระดับหนึ่ง หากคะแนนสอบเอนทรานซ์ของเราไม่ถึงคะแนนที่จะได้เข้าเรียนในคณะที่เราเลือกเป็นอันดับต้นๆ เราก็จะได้มีโอกาสเข้าเรียนในคณะที่เราเลือกเป็นอันดับรองลงมา

ในวันสอบเอ็นทรานซ์นั้นโดยทั่วไปแล้วทางกระทรวงศึกษาจะกำหนดให้สอบที่สถานที่เดียว แต่จะมีการสอบกี่วันขึ้นอยู่กับจำนวนวิชาหลักของสาขาที่เราต้องการเข้าเรียน อาจมีบางคณะที่เราต้องสอบวิชาเฉพาะต่างหากที่สถาบันนั้น ซึ่งจะกำหนดให้สอบที่สถานที่ของคณะนั้นเป็นการเฉพาะ

การสอบเอ็นทรานซ์ระบบเก่าเป็นการสอบครั้งเดียวหมายความว่าถ้าสอบได้ก็ได้เข้าไปเรียนในคณะที่เราเลือกและมีคะแนนสอบถึงเกณฑ์ แต่หากสอบไม่ได้หมายความว่าเราทำคะแนนได้ไม่ถึงเกณฑ์คะแนนของคณะที่เราเลือกทั้ง 6 อันดับ หมายความว่าเราสอบเอนทรานซ์ไม่ติดในปีนั้น ดังนั้นในระหว่างเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์จึงเป็นช่วงเวลาที่เราต้องมุ่งมั่นตั้งใจในการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบอย่างเต็มที่ โดยมีเวลาเตรียมตัวประมาณสองเดือน บางคนก็ลงทุนไปเรียนกวดวิชา สมัยนั้นโรงเรียนกวดวิชาเพื่อเตรียมสอบเอนทรานซ์เป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นมากมาย

ช่วงเวลาเตรียมตัวสอบเอนทรานซ์เป็นช่วงเวลามีความกดดันและเครียดมากที่สุด เพราะการสอบเอนทรานซ์คือบันไดขั้นแรกของการมีอาชีพที่เราอยากทำในอนาคต คนที่สอบเอนทรานซ์ไม่ติดจะผิดหวังและเสียใจมาก คนที่มีฐานะหน่อยก็จะเบนเข็มไปเข้ามหาวิทยาลัยเอกชนซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ามหาวิทยาลัยของรัฐมาก คนที่ยังไม่หมดกำลังใจก็จะมีเวลาหนึ่งปีในการเตรียมตัวเพื่อสอบใหม่ในปีต่อไป แต่รัฐบาลก็มีทางออกให้สำหรับคนที่สอบไม่ติดคือการเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยเปิดอย่างมหาวิทยาลัยรามคำแหงหรือสุโขทัยธรรมาธิราช

         การสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยนั้นไม่ใช่การตัดสินความสำเร็จหรือล้มเหลวของชีวิต ใบปริญญาก็เป็นเพียงเป็นใบเบิกทางในการเข้าทำงานเท่านั้น ความรู้ที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยเอามาใช้ประโยชน์ในการทำงานจริงด้วยเปอร์เซ็นที่น้อยมาก ในการทำงานต้องเรียนรู้จากประสบการณ์จริงและพัฒนาตนเองโดยการศึกษาและเรียนรู้ตลอดเวลาไม่ได้จบอยู่แค่ในมหาวิทยาลัย คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากมายที่ไม่มีใบปริญญา

เครดิตภาพ BeYourCyber, tcaskhuxxari, Sanook

#การสอบเอ็นทรานซ์ #เอ็นทรานซ์ในอดีต #เรื่องเล่าจากอดีต