รู้เท่าทัน “โรคไข้หวัดใหญ่”
จากสถิติแล้วพบว่าคนไทยป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่มากพอสมควร ยิ่งอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อจะพบว่าผู้ป่วยนั้นจะรับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายมากขึ้นกว่าปกติ โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากร่างกายได้รับเชื้อไวรัส influenza เข้าสู่ร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยนั้นมีอาการไข้สูงอย่างเฉียบพลันซึ่งหากไม่รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจเกิดอาการช๊อคขึ้นมาได้ ถือเป็นอีกหนึ่งโรคใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย การรู้เท่าทันโรคจะช่วยให้เราสามารถดูแลและป้องกันตัวเองได้อย่างถูกวิธี
อาการของ โรคไข้หวัดใหญ่
- อาการเริ่มต้นผืป่วยจะรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัว เจ็บตามกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณต้นแขน และต้นขา
- มีไข้สูงอย่างเฉียบพลัน 38-41 °C
- ปวดศีรษะ บางรายมีอาการปวดกระบอกตาร่วมด้วย
- รู้สึกร่างกายอ่อนเพลีย ไม่อยากอาหาร ทานอาหารไม่อร่อย
- มีอาการไอแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน
- คัดจมูก มีน้ำมูกไหลตลอดเวลา
สาเหตุของการเกิด โรคไข้หวัดใหญ่
เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย อุณหภูมิเหวี่ยงร่างกายปรับตัวไม่ทัน เมื่อร่างกายอ่อนแอลง ส่งผลให้รับเชื้อก่อโรคได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเชื้อโรคที่จะเข้ามาทางระบบทางเดินหายใจ อย่างเชื้อ influenza ที่เป็นเชื้อก่อโรคไข้หวัดใหญ่ โดยตัวเชื้อก่อโรคนี้จะอาศัยอยู่สารคัดหลั่งของผู้ป่วย เช่น ในน้ำลาย เสมหะ น้ำมูก เป็นต้น โดยไข้หวัดใหญ่ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ สายพันธุ์ A และ สายพันธุ์ B ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์นี้จะให้ความรุนแรงของเชื้อที่แตกต่างกันตามโปรตีนของไวรัส ที่เรียกว่า hemagglutinin (H) และ neuraminidase (N) เช่น H1N1, H5N1 เป็นต้น
ภาวะแทรกซ้อนจาก โรคไข้หวัดใหญ่
หากดูอาการโรคไข้หวัดใหญ่แล้วจะคล้ายๆกับโรคไข้หวัดธรรมดา แต่อาการรุนแรงกว่าเท่านั้น แต่ทราบหรือไม่ว่า หากผู้ป่วยป่วยเป็นโรคนี้อย่างรุนแรงสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตตามมาได้ ซึ่งการเกิดภาวะแทรกซ้อนนั้นมีหลายปัจจัย ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ อย่างเด็ก หรือผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ไวรัสชนิดนี้จะไปกระตุ้นร่างกายให้อาการของโรครุนแรงมากยิ่งขึ้น และเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆตามมาเช่น โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน โรคทางกล้ามเนื้อประสาท รวมไปถึงโรคปอดและหัวใจเป็นต้น
สำหรับใครที่รู้สึกว่ามีอาการไม่สบายเนื้อสบายตัว ปวดหัว ปวดกระบอกตา อาเจียน เหนื่อยหอบได้ง่าย ไอรุนแรง และที่สำคัญมีไข้สูง ให้รีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการโรคไข้หวัดใหญ่ และหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป เพื่อป้องกันอาการนั้นรุนแรงจนถึงขั้นหัวใจล้มเหลวลงได้ ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วจะค่อยๆทุเลาลง แต่หากได้รับการรักษาได้ทันเวลาร่างกายจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับนั่นเอง
#โรคไข้หวัดใหญ่ #โรคใกล้ตัว #สุขภาพน่ารู้
Recent Comments