ทัศนคติสำคัญกว่าการทำงานเก่งหรือไม่?

3 สิ่งที่ผ่านไปแล้วและจะไม่หวนกลับคืนมานั่นคือ อายุ เวลา ความรัก ทุกวันที่เราใช้ชีวิตกันอยู่นั้นเวลาได้ดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ บางคนนั้นใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาที่ไม่มีความฝันอะไรเลย เพียงแค่ใช้ชีวิตให้หมดไปแต่ละวันเท่านั้นเอง ไม่คิดจะไขว่คว้าอะไรเพิ่มเติมเลย จนท้ายที่สุดเวลาก็ได้ผ่านไปและพัดพาทุกอย่างออกไปด้วย แต่เดี๋ยวก่อนค่ะวันนี้เรามากระตุ้นตัวเองกันหน่อยกับเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง หากทุกคนกำลังรู้สึกเหนื่อย ท้อใจ เบื่อหน่ายกับความเรื่อยเปื่อยของชีวิตตัวเองตอนนี้ละก็ลองมาทบทวนตัวเองพร้อมทั้งกระตุ้นตัวเองกับเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ เพราะว่าเรานั้นเกิดมาแค่ครั้งเดียว เพราะชีวิตของเราทุกคนนั้น ไม่มีสำรองไว้ใช้ มีเพียงแต่ใช้แล้วหมดเลย โอกาสบางกโอกาสเมื่อผ่านเข้ามาแล้วไม่รีบคว้าไว้ โอกาสนั้นอาจจะหายไปแล้วไม่กลับมาอีกเลยก็ได้ ดังนั้นแล้วการทุ่มเททำทุกอย่างอย่างเต็มที่ตามความฝันที่เราต้องการนั้น เป็นสิ่งที่ทสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าเรามีชีวิตแค่ชีวิตเดียวนะ {...}

            มีหลายคนมาเล่าถึงปัญหาระดับชาติในงานวันเกิดของตัวเองที่เพื่อน ๆ ต่างนำเค้กมาเซอร์ไพรส์พร้อมด้วยเทียนที่ปักมีเปลวไฟฟิน ๆ บนหน้าเค้กที่ตกแต่งแบบน่ารัก แต่เราคงอยากจะขอบคุณเพื่อนทุกคนมากกว่านี้หากจะใช้เทียนปกติสามัญที่เป่าให้ดับได้ง่าย ๆ หน่อย คือก็เข้าใจล่ะนะว่าการถือเค้กนำมาเซอร์ไพรส์เจ้าของวันเกิดอย่างเราต้องใช้เวลาหน่อยและหากเทียนดับขึ้นมาก็คงเสียบรรยากาศได้ แต่ก็เสียบรรยากาศก็คงไม่เสียหน้าเท่ากับการที่เราจะอธิษฐานแล้วเป่าเทียนแต่ไม่ดับหรอก สุดท้ายก็กลายเป็นว่าทุกคนในกลุ่มต้องช่วยกันเป่าเทียนจนดับได้ซึ่งมาคิดดูก็แอบสับสนว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของวันเกิดตัวจริง แต่ครั้นจะบอกเพื่อนว่าครั้งหน้าขอเทียนแบบปกติก็ดูจะขัดน้ำใจอีกฝ่ายไปหน่อย ดังนั้นจึงเป็นคุณเองที่ควรเตรียมรับมือกับการเป่าเทียนยุคใหม่ที่ดับยากงานวันเกิดในปีต่อไปให้ได้เองคนเดียว ซึ่งวันนี้เราจะมาบอกวิธีเป่าเทียนวันเกิดยุคใหม่ให้ดับเอง เป่าเทียนวันเกิดแบบพ่นยาว ๆ จนดับ             วิธีแรกในการเป่าเทียนวันเกิดให้ดับก็คือ การสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ หลังจากนั้นก็เป่าเทียนด้วยลมจากปากแบบยาว ๆ ต่อเนื่องกันอย่าได้หยุดเพียงชั่วขณะเพื่อให้ระดับลมมีความแรงและเปลวเทียนก็จะดับในที่สุด {...}

            บทความนี้เราจะมาเป็นที่ปรึกษาให้สาว ๆ และหนุ่ม ๆ ที่กำลังโสด แต่ก็คิดอยากจะมีแฟน หลายคนคงกำลังหนักใจว่าหากวันใดวันหนึ่งที่ตัวเองมีแฟนและต้องแต่งงานไปแล้วทำอาหารไม่เป็นก็คงน่าแปลกไม่ใช่เล่น โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ถูกคนในครอบครัวปลูกฝังมาเสมอว่าเมื่อแต่งงานแล้วต้องทำหน้าที่เป็นแม่ศรีเรือนให้สามีและลูกตัวเองเป็นอย่างดี แต่ในเมื่อคุณทำอาหารไม่เป็นก็เท่ากับว่าคุณไม่พร้อมจะเป็นภรรยาและผู้คนก็ต้องมองคุณว่าแปลกมากด้วย โตเป็นผู้ใหญ่แล้วกลับทำอาหารไม่เป็น ซึ่งเราขอบอกเลยว่าในยุคสมัยก่อนคนที่ทำอาหารไม่เป็นอาจจะแปลกจริง แต่ในปัจจุบันนี้ คนที่ทำอาหารไม่เป็นกลับไม่ใช่เรื่องที่แปลกเลย แล้วคุณก็ไม่ต้องเครียดขนาดนี้ด้วย เพราะอะไรไปดูกัน คนทำอาหารไม่เป็นเพราะสังคมมีแต่ความเร่งรีบ             ในสังคมสมัยก่อนนั้น การไปทำงานและการเดินทางในแต่ละวันไม่ได้เร่งรีบเหมือนอย่างปัจจุบัน ผู้คนเดินทางกันอย่างเชื่องช้าแต่ก็มีการปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับเวลาจึงไม่ทำงานได้ทันทุกครั้ง ทว่าในวันนี้แต่ละจังหวัดช่วงเช้ากับช่วงเย็นมักจะมีรถราเยอะไปหมด แม้จะรีบตื่นนอนและออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าก็ยังเกือบสายอยู่ดี พอเวลาเย็นหลังเลิกงานก็ไม่ต่างกัน บางจังหวัดที่เป็นเมืองใหญ่กว่าจะออกจากแหล่งชุมชนมาได้ก็เป็นชั่วโมงทั้งที่บ้านก็อยู่ในจังหวัดนั้น {...}