มาเลือกสีทาเล็บให้เหมาะกับเรากันดีกว่า

อันว่าร่างกายของมนุษย์นั้นแท้ที่จริงแล้วมันก็เหมือนเทคโนโลยีเรื่องเครื่องจักรกลชนิดหนึ่งหากแต่เป็นเครื่องจักรกลทางชีวภาพ ที่มีระบบกลไกการทำงานเป็นของตัวเอง และแน่นอนว่าในเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องจักรกลชนิดหนึ่งแล้วย่อมต้องเป็นปกติธรรมดาที่จะต้องรู้จักการซ่อมแซมดูแลเพื่อบำรุงรักษาเครื่องจักรกลดังกล่าวเพื่อยืดอายุการใช้งาน ป้องกันการเสื่อมสภาพและสึกหรอโดยเร็วและช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับร่างกายมนุษย์แล้วนอกจากการทานยาและอาหารที่เหมาะสมแล้วการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย 1. การนอนหลับพักในช่วงหัวค่ำ เวลาสามทุ่มถึงห้ามทุ่ม การนอนหลับพักผ่อนให้สนิทในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ช่วยกระตุ้นให้ระบบการผลิตน้ำเหลือง รวมทั้งระบบการขับถ่ายของเสียทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ภูมิคุ้มกันโรคต่างๆในร่างกายขอบงคนเรานั้น สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่จะมายังร่างกายได้อย่างดีขึ้น 2.การนอนหลับในช่วงดึก ตั้งแต่สี่ทุ่มขึ้นไปจนถึงเที่ยงคืน ขอบอกแล้วว่าเป็นช่วงเวลาการนอนหลับที่ดี และสำคัญอย่างมาก สำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลาย เพราะมันจะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้มีการกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังต่างๆได้รับการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน และซ่อมแซมตนเองทำให้มีผิวพรรณเปล่งปลั่งใหม่ๆ สวยงาม กระบวนการดังกล่าวยังรวดเร็วกว่าตอนเวลาปกติถึง 8 เท่า ด้วยกันหากคนมีการนอนหลับสนิทในช่วงเวลานี้ {...}

            ตั้งแต่อดีตแล้วที่อาชีพนักเขียนถูกมองว่าเป็นอาชีพที่ไส้แห้ง เพราะกว่าจะใช้เวลาเขียนต้นฉบับ ใช้เวลาพิจารณา และตีพิมพ์ กว่าจะได้เงิน บางคนก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งปีเพราะคิวงานที่เยอะซึ่งตามปกติของการมีอาชีพก็ควรได้เงินเดือนหลักหมื่นในทุกเดือนจึงจะเหมาะสม แต่ในเมื่อเงินเดือนของนักเขียนหลายเดือนจึงจะได้ทีจึงทำให้ทุกคนต่างมองกันว่าระหว่างนี้ก็เหมือนคนกินแกรบไปเลย แบบนี้ล่ะคือ “ไส้แห้ง” แต่ก็อย่าลืมว่าในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในทุกอาชีพแล้วทำให้หลายอาชีพมีการทำงานที่เปลี่ยนไปไม่เว้นแม้แต่นักเขียนซึ่งมีทางเลือกมากมายกว่าในอดีต คำว่า “ไส้แห้ง” จึงกลายมาเป็นคำสุดเชยที่แสดงถึงมุมมองความเป็นคนรุ่นเก่าอันแท้ทรู อาชีพนักเขียนสามารถทำอีบุ๊กขายเองได้             ในสมัยก่อน นักเขียนต้องรอลุ้นตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์กว่าจะผ่านก็นมนานจนแทบจะไส้แห้งจริง แถมบางครั้งส่งสำนักพิมพ์ไปแล้วก็โดนให้แก้รีไรท์งานต้นฉบับมากมายหลายอย่างจนกลายเป็นว่าหมดเอกลักษณ์งานเขียนสไตล์เราไปเลย แต่ในเมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาในสังคมเราก็สามารถใช้มันให้เป็นประโยชน์หาเลี้ยงชีพเป็นงานประจำได้โดยไม่ต้องรอสำนักพิมพ์อีกต่อไป การขายหนังสือแบบ E – Book จึงกำเนิดขึ้นมาในแวดวงอาชีพนักเขียนที่เราไม่ต้องลงทุนอะไร {...}

            ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มาคำเกิดใหม่มากที่สุดในโลกและยิ่งเทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้โลกเปิดกว้าง และผู้คนก็กล้าแสดงออกจนมีทั้งคำคม นิยาม และวลีเด็ดประจำตัวเองที่ถูกปล่อยออกไปเพียงสั้น ๆ แต่กลับโดนใจคนไทยรุ่นใหม่หลายคนจนกลายเป็นวลีเด็ดยุคใหม่ติดปากไปในที่สุดและหลายคำก็เด็ดจัดจนใช้ติดต่อกันมาหลายปีเลยด้วยซ้ำ วันนี้เราจึงจะมาเสนอวลีเด็ดยุคใหม่ที่ติดปากคนไทยมากมาฝากเผื่อคุณจะอยากนำไปพูดกับเพื่อนให้ดูเป็นคนมาดมั่นไม่ตกเทรนด์มากขึ้น วลีเด็ดยุคใหม่ที่ติดปากคนไทย “ได้หมดถ้าสดชื่น”             “ได้หมดถ้าสดชื่น” เป็นหนึ่งในวลีเด็ดยุคใหม่ของไทยที่กลุ่มวัยรุ่นตั้งแต่วัยมหาวิทยาลัยจนถึงอายุ 40 ปีขึ้นไปจะรู้จักโดยมาจากคลิปหนึ่งที่อาจารย์มหาวิทยาลัยไลฟ์สดตามเหล่าลูกศิษย์ที่ไม่ยอมมาเรียนและแสดงออกว่าตัวเองไม่ได้สะทกสะท้านหรืออ่อนไหวใด ๆ กับการที่ลูกศิษย์ทำเช่นนี้โดยการท้าทายด้วยวลีเด็ด “ได้หมดถ้าสดชื่น” พร้อมยิ้มเชิดหน้าแบบมาดนางพญาซึ่งแปลว่า “ถ้าแน่จริงก็ลองไม่มาเรียนวิชาของครูดูสิ เพราะครูก็จะได้เช็กไม่ให้ผ่านการเรียนวนวิชาที่แบบง่าย ๆ สดชื่น ไม่มีอะไรมากหรอก” ทำให้กลายเป็นที่โดนใจของชาวไทยจนติดปากพูดแบบคนมั่น {...}